จากกรณีคนร้ายจำนวน 3 คน สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ และสวมหมวกกันน็อคแบบเต็บใบสีดำทั้ง 3 คน แต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ ขับขี่รถจยย.ก่อเหตุใช้อาวุธปืน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี อดีตเด็กนักเรียน ม.3 ของโรงเรียนสุดใจวิทยา เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด เสียชีวิต ขณะเดินทางกลับบ้านกับเพื่อนหลังจากไปหาเงินพิเศษช่วยครอบครัว บริเวณจุดกลับรถถนนสุวินทวงศ์ สี่แยกมีนบุรี แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนผู้ก่อเหตุและพรรคพวกเข้ามอบตัวและเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวมาได้จำนวนหนึ่ง และคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และออกหมายจับวัยรุ่นที่หลบหนีอีก 4 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาตินำศพของนายเอ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านใน ต.น้ำชุน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่คืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีพิธีสวดอภิธรรมศพ 2 คืน และจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้ โดยมีญาติ เพื่อนบ้าน พร้อมทั้งเพื่อนๆ จากกรุงเทพเดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
สามเณรบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนของผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายในวันเกิดเหตุ มาบวชเป็นสามเณรหน้าไฟ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย พร้อมทั้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนกับผู้ตายขับรถออกมาจากที่ทำงานบริเวณถนนสุวินทวงศ์ ขาออก มุ่งเข้าบ้านพักซอยหทัยราษฏร์ 33 มีกลุ่มคนร้ายขับรถย้อนศรสวนทางมา พร้อมทั้งมองมาที่ตนกับเพื่อน แต่ตนและเพื่อนก็ไม่ได้สนใจ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายกลุ่มดังกล่าวขี่รถอ้อมตรงป้อมตำรวจและขับแซงมา ตนจึงบอกผู้ตาย แต่ผู้ตายบอกว่าไม่ต้องสนใจ เพราะไม่ได้รู้จักหรือมีเรื่องมาราวกันมาก่อน จากนั้นก็ขับรถมาตามปกติ จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ได้ใช้ปืนปากกายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต
สามเณรบี กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ก่อเหตุที่เข้ามามอบตัวและให้การว่า มีการตะโกนด่าและให้ของลับกันนั้นไม่เป็นความจริงเลย ตนกับผู้ตายไม่ได้ตะโกนด่าแต่อย่างใด อีกทั้งตนกับผู้ตายไม่รู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มดังกล่าวแต่อย่างใด จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่ตนกับผู้ตายตะโกนด่ากับกลุ่มดังกล่าว
ด้าน พ่อกับแม่ของนายเอ กล่าวว่า ขอให้ตำรวจติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด และให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่ว่าลูกของตนกับเพื่อนตะโกนด่ากลุ่มคนร้ายนั้นจากการสอบถามเพื่อนที่นั่งซ้อนมาด้วยก็บอกว่าไม่ได้มีการตะโกนด่ากัน ตามที่ผู้ต้องหาที่มอบตัวให้การ พร้อมกันนี้ตนและภรรยาต้องขอขอบคุณเจ้าของรถ ที่ได้บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะตามจับตัวคนร้ายได้ยากขึ้น รวมทั้งต้องขอขอบคุณสื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวจนสามารถจับตัวคนร้ายได้บางส่วนแล้ว
cr:http://www.siamupdate.com/news-183270
No comments:
Post a Comment